เคยรู้สึกไหมว่าบางครั้ง เหมือนมีคนจ้องมองคุณอยู่ อาจจะไม่เคย หรืออาจจะเคย แต่ที่แน่ๆ ทุกครั้งที่คุณกำลังเล่นเน็ตเปิดเว็บ Facebook เปิดเว็บ IG เปิดเว็บข่าว เว็บโป๊ ฯลฯ ทุกๆ การกระทำของคุณ มีบางสิ่งเฝ้ามองอยู่ด้วยไฟล์เล็กๆ เรียกว่า Cookie ที่ฝังตัวอยู่ใน Web browser ที่คุณใช้อย่าง Firefox, Opera, Safari ไม่ว่ายี่ห้ออะไรก็แล้วแต่

คำว่า Cookie อาจฟังดูเป็นศัพท์เทคนิคน่ารัก แต่แท้จริงแล้วมันก็เป็นแค่ไฟล์เก็บตัวหนังสือคล้าย .doc หรือ .txt ที่เครื่องเซิร์พเวอร์ของเว็บไซต์ต่างๆ สร้างให้เวลาคุณเยี่ยมชมเว็บนั้นๆ และฝังไว้ในคอมพิวเตอร์ของคุณในโฟลเดอร์ย่อยของเว็บเบราเซอร์ที่คุณใช้นั้นๆ (ลบออกได้ถ้าต้องการ)

วิธีลบ cookie

เว็บไซต์ต้องมี Cookie แจกสำหรับเด็กๆ ทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชม ก็เพราะมันต้องการจดจำการกระทำต่างๆ ของผู้ใช้เว็บ จะได้ไม่ไปรบกวน Server บ่อยๆ ให้เปลืองแรงและพลังงาน ซึ่งตัว Server เองก็ไม่จำอะไรพวกนี้อยู่แล้ว การกระทำที่มันจดจำเช่น ข้อมูลล็อกอิน การเป็นสมาชิกหรือไม่ ปรับหน้าตาเว็บไซต์ การเลือกภาษา สินค้าในตะกร้าสินค้า การคลิก แม้แต่ว่าคุณอยู่ที่ไหนบนโลกนี้ และอื่นๆ อีกมากตามที่เว็บไซต์จะต้องการเก็บข้อมูลเพื่อให้คุณได้ประสบการณ์ที่ดีที่สุด ง่ายที่สุด ด้วยเป้าหมายให้ยอดขาย หรือยอดโฆษณา หรือยอดอะไรก็ตามของเว็บดีสูงสุด

3rd Pary Cookie ของคนอื่น

หลายสิบปีที่ผ่านมา Cookie พัฒนาไปมาก เริ่มจำ เริ่มรู้มากเกินไป และเว็บเพจแต่ละหน้าสมัยนี้ก็มีส่วนประกอบมากมายที่เราต้องไปขอจากเว็บอื่นมาแปะไว้ เช่น ปุ่มแชร์ facebook, ปุ่ม Like IG, โฆษณา Google ฯลฯ ทำให้เจ้าของเว็บเองก็ลืมไปว่า เว็บเพจตัวเองก็อาจรวม Cookie ที่มาจากคนอื่น 3rd Party ที่ไม่ใช่ของเว็บเอง ซึ่งต้องทำหน้าที่เก็บข้อมูลเช่นกัน

พักหลังๆ มา ทำให้เกิดการถกเถียงกันไม่จบสิ้นว่า มันละลาบละล้วงเกินไปไหม ทำให้สมัยนี้คุณจะเห็นหลายๆ เว็บไซต์มี Pop-up ข้อความขึ้นมาให้คุณคลิกยอมรับการใช้งาน Cookie ขณะกำลังเยี่ยมชม เมื่อคลิกยอมรับ ส่ิงที่ย้อนกลับมาเหมือนเป็นกรรมจากชาติปางก่อนก็คือ เว็บไซต์ส่วนใหญ่ต่างมี 3rd Party Cookie ในการเรียนรู้สิ่งที่ผู้ใช้ชอบ เคยคลิกโฆษณาอะไร เคยอ่านอะไร มันจะจำไว้ แล้วจากนั้น ย้ำๆ ซ้ำๆ แสดงเนื้อหาโฆษณาเหล่านั้นมายังผู้ใช้อย่างเราๆ เหมือนเงาตามตัว

ย้อนกลับไปสมัยพ่อยังหนุ่ม ประสบการณ์การใช้เว็บก่อนมี Cookie ก็เปรียบได้กับการสื่อสารกับคนเป็นอัลไซเมอร์ จนกระทั่ง Cookie ถูกคิดค้นขึ้นในปี 1994 โดย Lou Montulli และ John Giannandrea พนักงานพัฒนาเว็บเบราเซอร์ค่าย Netscape เพื่อคิดค้นให้ระบบตะกร้าขายของ Ecommerce เป็นไปได้ และครั้งแรกมันถูกใช้งานจริงเพื่อให้จดจำผู้ชมเว็บไซต์ว่าเป็นหน้าเก่าหรือหน้าใหม่

เราพยายามจะทำให้เว็บไซต์มีความทรงจำ

-Lou Montulli เล่า

คำถามที่ทุกคนมักถามรวมทั้งผม ทำไมมันต้องมีชื่อเหมือนขนมอบกรอบ “Cookie” คำตอบก็คือ มีอยู่ 2-3 ทฤษฎี เช่น มาจากนิทานเด็กหลงป่าและใช้การโรยเศษ Cookie เพื่อจำทางกลับ และอีกเรื่อง มาจากคำว่า “Magic Cookie” ที่โปรแกรมเมอร์ใช้สำหรับการเรียกข้อมูล (Piece of data) ที่ส่งไปมาระหว่างโปรแกรม

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *