ความคลั่ง Mobile Internet ของมนุษย์

“ความแตกต่างระหว่างยากับยาพิษคือปริมาณที่กินเข้าไป” ผมได้ยินประโยคนี้มาจากที่ไหนสักแห่ง ซึ่งก็เป็นประโยคที่เอามาประยุกต์ได้กับทุกเรื่องที่เกี่ยวกับความล้นของมนุษย์เรา รู้ตัวอีกทีเราก็ต่างนั่งก้มหน้าก้มตามองมือถือโดยไม่สนใจสิ่งแวดล้อมรอบข้างกันอีกต่อไป อีกหน่อยเราคงต้องสอนลูกหลานของเราถึงวิธีการเงยหน้า ไม่งั้นอีก 100 ปีเราอาจจะมีอวัยวะใหม่งอกขึ้นมาตามวิวัฒนาการของการก้มมองมือถือ อาจจะเป็นคอที่โค้งมน หรือหัวที่สอง หรือแขนที่สาม…แม้วงการจะจารึกไว้ว่า Mobile Internet เริ่มขึ้นพร้อมกับมือถือ Nokia 9000 Communicator แต่ผมว่าจริงๆ แล้ว มันเริ่มต้นเมื่อวันที่ 29 มิถุนายนปี 2007 วันที่ Steve Jobs เปิดตัว iPhone ถ้าให้มองย้อนไป ผมจำได้ดี เราส่วนใหญ่ไม่เคยคิดอยากจะเข้าเว็บผ่านมือถือจอขาวดำเล็กๆ จนกระทั่งมี iPhone ออกมา และแถมคนทั่วไปส่วนใหญ่ก็ต้องรอหลายปีถัดมา จนกว่ามี Andriod ออกมาให้ใช้กันในราคาซื้อได้ พอทุกคนได้เข้าไปในโลกออนไลน์ผ่าน Mobile ด้วยความเร็ว 3-4G เราต่างก็ไม่หันหลังกลับมาดูอดีตกันอีกเลย  ไม่แปลกที่ทุกวันนี้จำนวนผู้ชมเว็บไซต์กว่า 70% มาจาก Smart phone และ Tablet และยังโตขึ้นเรื่อยๆ แต่คนส่วนใหญ่ที่มาจาก Mobile จะใช้เวลาน้อยกว่าคนที่มาจากคอมพ์ Desktop …

Netflix เคยให้เช่า DVD มาก่อน

ในขณะที่เรากำลังติดซีรีส์บน NetFlix อย่างบ้าคลั่ง หลายคนอาจไม่รู้เลยว่า Netflix.com เป็นบริการส่งหนัง DVD ถึงบ้านมาตั้งปี 1998 จนกระทั่งเน็ตมีความเร็วมากพอในปี 2007 ที่ Netflix ได้เริ่มบริการ “Video on Demand” แทนที่จะต้องรอ Game of Throne ตอนหน้าอีกหนึ่งอาทิตย์ คุณก็สามารถดูได้ทั้งซีซันภายในวันเดียว แต่ด้วยความคิดที่ว่า มันเป็นเนื้อหา (Content) ที่ใครๆ ก็ซื้อได้ ใครๆ ก็ทำได้ ทำให้ Netflix ต้องคิดไปไกลกว่านั้น สิ่งที่ทำให้ Netflix ยิ่งใหญ่ นอกจากการออกแบบซอฟท์แวร์ เว็บไซต์ให้ใช้ง่าย แถมภาพชัดโหลดเร็วสุดๆ คือการสร้างเนื้อหาของตัวเองขึ้นมา “Netflix Original” ทั้งสารคดี ภาพยนตร์ และซีรีส์ แถมยังทำได้ดี ทั้งเนื้อหา ทั้งดาราใหญ่ๆ ได้รางวัลออสก้า และเอ็มมี่กว่า 60 รางวัล รวมทั้งการนำเสนอ แคมเปญโฆษณาแหวกแนว และการใช้งานต่างๆ …

Dark Web คืออะไร

ยินดีต้อนรับสู่มุมที่ลึกที่สุด มืดที่สุดบนอินเตอร์เน็ต “Dark Web” โลกที่จะทำให้ความคิดชั่วร้ายของคุณเป็นจริง ในนี้ คุณไม่ต้องแสดงตัวตน เพราะไม่มีใครมีตัวตน ทุกคนเป็นเหมือนผี ทุกอย่างที่คุณทำจะเป็นความลับทั้งหมด และนั่นทำให้ Dark Web รวมเอาไว้ด้วยเว็บไซต์ผิดกฏหมายมากมายตั้งแต่ค้าของเถื่อน ค้ายาไปจนถึงค้าคน ผู้ก่อการร้าย ยังไม่รวมถึงพฤติกรรมด้านมืดอีกมากมายที่ผมเองก็ไม่กล้าลิสมาให้ดู แต่ก็ไม่ใช่ทุกสิ่งจะชั่วร้ายไปซะหมด คุณอาจจะแปลกใจถ้ารู้ว่าเกือบครี่งหนึ่งเป็นเรื่องถูกกฎหมาย คุณสามารถ Chat กับเพื่อน อ่าน Wikipedia หาข้อมูลลับที่ไม่เคยเปิดเผยในโลกออนไลน์ทั่วไป มีชุมชนเล่นหมากรุก และแม้แต่มี Facebook ของมันเองเรียกว่า The Facbook of Tor และเว็บไซต์ต่างๆ ในนั้นจะไม่เป็น .com, .net แต่เป็น .onion ซึ่งมีอยู่ราวหลักพันเว็บเท่านั้น แต่ถ้าจะดู เสียใจด้วย เว็บเบราเซอร์ปกติธรรมดาไม่สามารถเปิดได้ และข้อมูลทั้งหมดก็ไม่สามารถค้นหาได้จาก Google ‘Tor’ Web Browser สำหรับโลกมืด การเข้าเว็บไซต์เหล่านี้ คุณต้องใช้เว็บเบราเซอร์อย่าง Tor (The Onion Routing” …

ทำไมคนถึงชอบคิดกันว่าโลกออนไลน์ ต่างจากชีวิตจริง

แปลกดี เวลาพูดเรื่องออนไลน์ โลกอินเตอร์เน็ต โลกไซเบอร์ แล้วแต่จะเรียก ทุกคนก็ลืมชีวิตจริงกันหมด ลืมว่าลูกค้าก็คือคน ลืมว่าเราต่างมีความรู้สึกนึกคิด มีอารมณ์แปรปรวน ฯลฯ Internet changed how people buy but not why they buy! คุณก็ยังต้องให้ความสำคัญกับลูกค้าเหมือนเดิม ทำเว็บให้น่าแวะชมเหมือนกับร้านค้าทั่วไปเหมือนเดิม โลกออนไลน์สร้างด้วยมนุษย์ อาศัยอยู่ด้วยมนุษย์ มนุษย์ที่มีความรู้สึก ยังต้องการความเข้าใจ ความเอาใจใส่ สุดท้ายมันก็ยังเป็นโลกของ ‘คน’ อยู่ดี…แค่มีเครื่องมือให้ใช้สื่อสารกันในแบบที่ต่างออกไปแค่นั้นเอง